Privacy Policy

นโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัท บอช แอนด์ ลอมบ์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทในเครือ (“บริษัท”) ตระหนักถึงความสำคัญของความเป็นส่วนตัวและจะจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กำหนดไว้ด้านล่าง) ตามเงื่อนไขของนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ โปรดอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้และทำความเข้าใจวิธีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ บริษัทขอสงวนสิทธิในการแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ตามที่เห็นสมควร และฉบับปรับปรุงจะถูกโพสต์บนเว็บไซต์ของบริษัท

ข้อมูลทั่วไป

บริษัทอาจเก็บรวบรวมชื่อ หมายเลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่ ที่อยู่อีเมล วันเกิด เพศ หมายเลขโทรศัพท์ อาชีพ ข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ข้อมูลการเดินทาง และความสนใจส่วนบุคคล ของท่าน (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) เพื่อตอบคำถามหรือตอบสนองคำขอของท่าน เพื่อแจ้งให้ท่านทราบผลของกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ท่านตกลงที่จะเข้าร่วม และ/หรือ เพื่อการวิจัยตลาดที่เกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทและการเตรียมข้อมูลจัดทำสถิติ และ/หรือ เพื่อกิจกรรมส่งเสริมการวิจัยหรือการตลาด
หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกขโมย ถูกโจรกรรมข้อมูลในเครือข่ายระบบคอมพิวเตอร์ สูญหายหรือเสียหายอันเนื่องจากเหตุบังเอิญหรือโดยวิธีการอื่นใด โดยไม่ใช่ข้อบกพร่องหรือความประมาทเลินเล่อในส่วนของบริษัท บริษัทอาจไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นตามขอบเขตที่อนุญาตภายใต้กฎหมายของประเทศไทย

คุกกี้ (Cookies)

คุกกี้เป็นไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กที่จะถูกรวบรวมในเว็บเบราว์เซอร์ของท่านเพื่อติดตามข้อมูลการเยี่ยมชม ดังนั้นเมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทในอนาคต เซิร์ฟเวอร์อาจรับรู้ได้ในทันทีว่าท่านเคยเข้าชมเว็บไซต์นี้มาก่อน บริษัทใช้คุกกี้เพื่อปรับแต่งให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่เหมาะสมในการใช้เว็บไซต์
คุกกี้ไม่ใช่โปรแกรมที่จะทำลายไฟล์ใดๆ ในคอมพิวเตอร์ แต่ใช้เพียงเพื่อเก็บข้อมูลการเยี่ยมชมเท่านั้น เช่น หน้าเว็บที่ผู้ใช้เข้าชม หน้าเว็บที่ผู้ใช้มักเริ่มและยุติการเยี่ยมชม และความถี่ที่ผู้ใช้เข้าชมเว็บไซต์ เป็นต้น บริษัทไม่ได้ใช้คุกกี้เพื่อติดตามตัวตนของผู้ใช้จริง ดังนั้น คุกกี้จะเพียงแต่บอกว่าคอมพิวเตอร์เครื่องใดเคยเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทในอดีตหรือไม่คุกกี้จะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ หรือที่อยู่อีเมล อย่างไรก็ตาม หากท่านไม่ต้องการให้มีคุกกี้ในคอมพิวเตอร์ของท่าน ท่านสามารถกำหนดค่าเว็บเบราว์เซอร์ของท่านเพื่อปิดการใช้งานคุกกี้
ผู้ใช้เว็บไซต์ของบริษัทสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าสำหรับการใช้คุกกี้โดยเปลี่ยนการตั้งค่าเบราว์เซอร์ อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่า หากท่านปิดการใช้คุกกี้ทั้งหมด ท่านอาจไม่สามารถใช้บริการบางอย่างบนเว็บไซต์ได้

เว็บบีคอน (Web Beacons)

บางหน้าเว็บบนเว็บไซต์มี “เว็บบีคอน” (หรือที่รู้จักกันว่า อินเทอร์เน็ต แท็ก (internet tags) พิกเซล แท็ก (pixel tags) และเคลียร์ กิฟ (clear GIFs)) เว็บบีคอนเหล่านี้อนุญาตให้บุคคลภายนอกได้รับข้อมูล เช่น หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP address) ซึ่งได้ดาวน์โหลดหน้าเว็บที่มีบีคอนปรากฏอยู่ ที่อยู่เว็บไซต์ (URL) ที่มีบีคอนปรากฏอยู่ เวลาที่หน้าเพจที่บีคอนปรากฏอยู่ถูกเปิดดู ประเภทของเบราว์เซอร์ที่ใช้เปิดดูหน้าเพจนั้น และข้อมูลในคุกกี้ที่กำหนดโดยบุคคลภายนอก

เทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล (Secure Sockets Layer : SSL)

เว็บไซต์กำลังนำเทคโนโลยีการเข้ารหัส SSL มาใช้บนหน้าเว็บที่มีการป้อนข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ลูกค้าสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลที่ป้อนเข้าได้อย่างปลอดภัย SSL เป็นมาตรการสำหรับเข้ารหัสข้อมูลที่มีค่า เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการรับส่งทางอินเทอร์เน็ต SSL สามารถป้องกันการดักจับและบิดเบือนข้อมูล และการปลอมแปลงโดยบุคคลภายนอกได้

วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวมไว้ โดยแยกใช้เป็นข้อมูลรายบุคคลหรือใช้เป็นข้อมูลโดยรวม และอาจรวมเข้ากับข้อมูลอื่นๆ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • เพื่อทำการตลาดและการติดต่อสื่อสารกับท่านอันเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการที่เสนอโดยบริษัท
  • เพื่อติดต่อกับท่านในการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าหรือผลิตภัณฑ์และการวิจัยตลาด
  • เพื่อตอบสนองในเรื่องงาน/การสมัครงาน หรือประเด็นเรื่องการรับสมัครงานของท่าน
  • เพื่อตอบสนองต่อปัญหาการดำเนินธุรกิจ
  • เพื่อตอบคำถามหรือตอบสนองคำขอของท่าน
  • เพื่อแจ้งให้ท่านทราบผลของกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ท่านได้เห็นชอบที่จะเข้าร่วม
  • เพื่อการวิจัยตลาดที่เกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทและการจัดเตรียมข้อมูลสถิติ และ
  • เพื่อส่งเสริมการวิจัยหรือการตลาด

การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่กำหนด หรือตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมเท่านั้น ยกเว้นกรณีที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

การเปิดเผยและการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล

เว้นแต่จำเป็นหรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายไทย บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ผู้อื่น และ/หรือ ถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกนอกประเทศไทยโดยปราศจากความยินยอมของท่าน
ในกรณีที่บริษัทต้องการข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม บริษัทจะขอข้อมูลเพิ่มเติมดังกล่าวจากท่านและจะเก็บรักษาข้อมูลเป็นความลับ
ในบางกรณี เมื่อบริษัทจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และ/หรือ ถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกนอกประเทศไทยไปยังบุคคลภายนอก เช่น สำนักงานใหญ่ บริษัทในเครือ บริษัทย่อย/สาขา หรือผู้ให้บริการของบริษัท อาจถือได้ว่าท่านได้ตกลงที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อที่บริษัทและบุคคลภายนอกนั้นจะได้ตอบคำถามหรือตอบสนองคำขอของท่านต่อไป และ/หรือ เพื่อให้บริการที่จำเป็นแก่ท่าน
ท่านมีสิทธิยินยอมหรือไม่ยินยอมในการเปิดเผย และ/หรือ ถ่ายโอนข้อมูลดังกล่าว หรือแม้แต่มีสิทธิจะปฏิเสธการรับบริการเหล่านั้นเมื่อใดก็ได้
บริษัทอาจเปิดเผย และ/หรือ ถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้สถานการณ์ต่อไปนี้

  • ในแคมเปญส่งเสริมการขายบางรายการ ผู้สนับสนุนแคมเปญอาจขอข้อมูลเพิ่มเติม
  • ในบางกรณี ท่านอาจได้รับข้อมูลหรือข่าวพิเศษจากบุคคลภายนอก เมื่อท่านตกลงจะรับข้อมูลดังกล่าว ชื่อและที่อยู่อีเมลของท่านจะถูกเปิดเผยแก่บุคคลภายนอกนั้น และถือว่าท่านได้ให้ความยินยอมต่อการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
  • ในบางกรณี บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลแก่บริษัทจัดส่งพัสดุหรือเพื่อจัดการการเดินทาง
บริษัทอาจเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลไปยังสถานที่หนึ่งนอกประเทศไทยในกรณีพิเศษต่อไปนี้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่านได้เช่นกัน นั่นคือ
1. หากการเปิดเผยนั้นจำเป็นต่อการป้องกันหรือการตรวจจับอาชญากรรม หรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอบสวนหรือดำเนินคดี
2. หากการเปิดเผยนั้นจำเป็นต่อวัตถุประสงค์ในการประเมินผล
3. หากการเปิดเผยนั้นจำเป็นต่อการจัดทำสถิติหรือดำเนินการวิจัย
4. หากการเปิดเผยนั้นจำเป็นสำหรับบริษัทเพื่อขอรับบริการทางกฎหมาย
5. หากการเปิดเผยนั้นจำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์หรือเกี่ยวข้องกับคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาล
6. หากจำเป็นต้องเปิดเผย หรือได้รับอนุญาตจาก หรืออยู่ภายใต้กฎหมายใดๆ
7. หากมีข้อยกเว้น/การยกเว้นอื่นใดที่ใช้บังคับในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ทางเลือกของท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

หากท่านยินยอมที่จะรับข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัททางไปรษณีย์ ข้อความทางโทรศัพท์ (SMS) โทรศัพท์ อีเมล และโทรสาร บริษัทจะติดต่อท่านผ่านช่องทางการติดต่อสื่อสารเหล่านั้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับข่าวสาร กิจกรรม สินค้า และบริการของบริษัท
หากท่านมีข้อร้องเรียน คำถาม ปัญหา หรือคำขอเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านมีอยู่กับบริษัท ท่านสามารถส่งอีเมลไปที่ DPO_TH@bausch.com เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทยินดีที่จะช่วยเหลือท่าน
หากท่านไม่ยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งจำเป็นต่อการจัดหาผลิตภัณฑ์หรือให้บริการบางประเภท บริษัทอาจไม่สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์หรือให้บริการดังกล่าวแก่ท่านได้
บริษัทไม่มีนโยบายที่จะขายหรือให้เช่าข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลภายนอก อย่างไรก็ตาม ตามที่ได้อธิบายใน ข้อ 4 และ ข้อ 5 ในคำประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และ/หรือ ถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกนอกประเทศไทยไปยังบุคคลภายนอก ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกเปิดเผย และ/หรือ ถ่ายโอนไปให้แก่บุคคลอื่นเว้นแต่บริษัทได้รับความยินยอมจากท่านหรือกฎหมายกำหนดเท่านั้น

ทางเลือกของท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

หากท่านต้องการเข้าถึง และ/หรือ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง และ/หรือ มีข้อร้องเรียน คำถาม หรือข้อสงสัย เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือหากท่านต้องการถอนหรือจำกัดความยินยอมของท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท หมายเลขโทรศัพท์ +603 86017000 และ/หรือ กรอกแบบฟอร์มคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (ดาวน์โหลดแบบฟอร์มนี้ได้จาก แบบฟอร์มคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล) หรือท่านอาจขอแบบฟอร์มนี้จากเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และส่งแบบฟอร์มที่กรอกข้อมูลอย่างถูกต้องครบถ้วนให้บริษัททางอีเมล DPO_TH@bausch.com

ข้อควรระวังเกี่ยวกับการสูญหายและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไม่เหมาะสม

โปรดเข้าใจว่าการส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตนั้นไม่สามารถรับรองความปลอดภัยได้ 100 เปอร์เซ็นต์
บริษัทจะใช้ความพยายามตามสมควรเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลทั้งหมดที่ส่งผ่านอินเทอร์เน็ต แต่ไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลที่ส่งทางอินเทอร์เน็ตได้ไม่ว่าในกรณีใดๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่ส่งเข้ามายังบริษัทหรือข้อมูลที่ส่งจากบริษัทไปยังท่าน

กฎหมายที่ใช้บังคับ

นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้อยู่ภายใต้การบังคับและการตีความตามกฎหมายไทย ข้อพิพาทที่เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้ และสิทธิและข้อผูกพัน และการดำเนินการทั้งหมดภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ จะถูกส่งไปยังศาลไทยซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้น

คำประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

คำประกาศเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ (“คำประกาศ”) จัดทำขึ้นสำหรับ บริษัท บอช แอนด์ ลอมบ์ (ประเทศไทย) จำกัด (“บริษัท”) เพื่อชี้แจงรายละเอียดและวิธีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือแม้แต่การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ผู้ใช้ หรือผู้บริโภคของบริษัท ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) คำประกาศนี้นำมาใช้กับข้อมูลส่วนบุคคลในความครอบครองของบริษัทหรืออยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลในความครอบครองขององค์กรที่บริษัทมีความเกี่ยวพัน เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคล

  • ตามที่ใช้ในคำประกาศนี้
    “ลูกค้า” หรือ “ผู้ใช้” หรือ “ผู้บริโภค” หมายถึง บุคคลที่ (ก) ติดต่อกับบริษัทผ่านทางวิธีการใดก็ตาม เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่บริษัทมี หรือ (ข) อาจจะ หรือ ได้ทำสัญญากับบริษัทเพื่อให้บริษัทจัดหาผลิตภัณฑ์หรือบริการให้ และ
    “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจริงหรือเท็จ เกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุไปยังตัวบุคคลนั้นได้ (ก) จากข้อมูลนั้น หรือ (ข) จากข้อมูลนั้นและข้อมูลอื่นซึ่งบริษัทมีอยู่หรือมีแนวโน้มที่จะเข้าถึงข้อมูลได้
  • ตัวอย่างบางรายการของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมจากท่าน ได้แก่ ชื่อ ที่อยู่พักอาศัย ที่อยู่อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ และสัญชาติ ขึ้นอยู่กับการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัท
  • คำนิยามศัพท์อื่นๆ ที่ใช้ในคำประกาศนี้ให้มีความหมายตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (แล้วแต่บริบท)
การเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  • โดยทั่วไป บริษัทจะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่ (ก) ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลแก่บริษัทโดยตรงด้วยความสมัครใจ หรือให้ข้อมูลแก่บริษัทโดยผ่านบุคคลอื่นที่ได้รับมอบอำนาจอย่างถูกต้องจากท่านให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท (“ตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจ” จากท่าน) หลังจากที่ (1) ท่าน (หรือตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจจากท่าน) ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ที่เก็บรวบรวมข้อมูล และ (2) ท่าน (หรือตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจจากท่าน) ได้ให้ความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรในการเก็บรวบรวมและการใช้ข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์เหล่านั้น หรือ (ข) การเก็บรวบรวมและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากความยินยอมนั้น ได้รับอนุญาตให้ทำได้หรือถูกกำหนดโดย พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่น บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อนเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมและก่อนใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในวัตถุประสงค์ที่ไม่ได้แจ้งท่านไว้ก่อนหน้า (เว้นแต่ว่ากฎหมายอนุญาตให้ทำได้)
  • บริษัทอาจเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์บางประการหรือวัตถุประสงค์ทั้งหมด ดังต่อไปนี้
    1. เพื่อดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวกับการจัดหาผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการที่ท่านร้องขอ
    2. เพื่อตอบสนอง จัดการ และดำเนินการต่อคำถาม คำขอ ใบสมัคร ข้อร้องเรียน และข้อเสนอแนะจากท่าน
    3. เพื่อบริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัท
    4. เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ที่ท่านได้ให้ข้อมูลไว้ และ
    5. เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับที่กล่าวข้างต้น
  • บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    1. เมื่อการเปิดเผยข้อมูลนั้นจำเป็นต่อการดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวกับการจัดหาผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการที่ท่านร้องขอ
    2. เปิดเผยให้กับผู้ให้บริการ ตัวแทน และองค์กรอื่นที่เกี่ยวพันกับบริษัทเพื่อปฏิบัติงานให้ลุล่วงตามวัตถุประสงค์ที่กล่าวข้างต้น
การถอนความยินยอม
  • ความยินยอมที่ท่านให้ไว้เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จะยังคงมีผลอยู่จนกระทั่งท่านขอถอนความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร ท่านอาจขอถอนความยินยอมและขอให้บริษัทยุติการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่แจกแจงข้างต้น โดยยื่นคำขอเป็นลายลักษณ์อักษร หรือส่งอีเมลไปยังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามรายละเอียดการติดต่อด้านล่าง
  • เมื่อได้รับคำขอถอนความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว บริษัทอาจต้องใช้เวลาตามสมควร (ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของคำขอและผลกระทบที่มีต่อความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัท) เพื่อดำเนินการตามคำขอของท่าน และเพื่อให้บริษัทได้แจ้งผลการดำเนินการแก่ท่าน ซึ่งรวมถึงผลทางกฎหมายที่อาจกระทบต่อสิทธิและความรับผิดชอบของท่านที่มีต่อบริษัท โดยทั่วไปแล้ว บริษัทจะดำเนินการตามคำขอของท่านภายในสามสิบ (30) วันทำการ หลังจากได้รับคำขอ
  • บริษัทเคารพการตัดสินใจของท่านที่จะขอถอนความยินยอม แต่โปรดทราบว่า บริษัทอาจไม่สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์หรือบริการให้แก่ท่านได้อีกต่อไป ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะและขอบเขตของคำขอของท่าน ในกรณีเช่นนี้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบก่อนที่บริษัทจะดำเนินการตามคำขอของท่าน หากท่านต้องการยกเลิกคำขอถอนความยินยอม กรุณาแจ้งต่อบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษรโดยวิธีตามที่อธิบายในข้อ 7 ด้านบน
  • โปรดทราบว่าการขอถอนความยินยอมไม่กระทบต่อสิทธิของบริษัทในการเก็บรวมรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่การเก็บรวมรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลโดยปราศจากความยินยอม สามารถทำได้ตามกฎหมาย หรือกฎหมายกำหนดไว้
การเข้าถึงและการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
  • หากท่านต้องการส่ง (ก) คำขอเข้าถึงข้อมูลเพื่อขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจัดเก็บไว้ หรือข้อมูลเกี่ยวกับวิธีที่บริษัทใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือ (ข) คำขอแก้ไขข้อมูลเพื่อขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทมีอยู่ให้ถูกต้องหรือปรับปรุงให้เป็นปัจจุบัน ให้ท่านส่งคำขอเป็นลายลักษณ์อักษรหรือส่งอีเมลไปยังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามรายละเอียดการติดต่อด้านล่าง
  • โปรดทราบว่าบริษัทอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามที่เหมาะสมสำหรับคำขอเข้าถึงข้อมูล หากมีการเก็บค่าธรรมเนียม บริษัทจะแจ้งท่านให้ทราบก่อนดำเนินการตามคำขอของท่าน
  • บริษัทจะดำเนินการตามคำขอของท่านโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ตามสมควร โดยทั่วไป บริษัทจะดำเนินการภายในสิบสี่ (14) วันทำการ แต่หากบริษัทไม่สามารถดำเนินการภายในสามสิบ (30) วันทำการหลังได้รับคำขอ บริษัทจะแจ้งท่านเป็นลายลักษณ์อักษรภายในสามสิบ (30) วัน นับจากเวลาที่บริษัทจะสามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านได้ หากบริษัทไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือไม่สามารถแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องตามที่ร้องขอได้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบว่าเหตุใดจึงไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ (เว้นแต่ว่าไม่จำเป็นต้องแจ้งภายใต้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)
การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจากการเข้าถึง การเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย การคัดลอก การเปลี่ยนแปลง การทำลาย หรือความเสี่ยงที่คล้ายกันนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต บริษัทได้ใช้มาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ มาตรการป้องกันทางกายภาพ และมาตรการป้องกันด้านเทคนิค เช่น การใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสที่ทันสมัย การเข้ารหัส การใช้แผ่นกรองแสงที่จอคอมพิวเตอร์เพื่อป้องกันการมองเห็นจากด้านข้าง และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคลากรภายในองค์กร และแก่ผู้ให้บริการ/ตัวแทนที่ได้รับอนุญาตของเรา เมื่อจำเป็นต้องให้ข้อมูลเท่านั้น
  • อย่างไรก็ดี ขอให้ท่านตระหนักว่า ไม่มีวิธีการที่จะส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตหรือวิธีจัดเก็บข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ใดที่ปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถรับรองความปลอดภัยได้ แต่บริษัทมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองความปลอดภัยของข้อมูลของท่าน และมีการทบทวนและปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ
ความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล
  • โดยปกติแล้ว บริษัทเชื่อมั่นในข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่าน (หรือตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจจากท่าน) ให้ไว้ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และถูกต้อง โปรดแจ้งให้บริษัททราบหากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีการเปลี่ยนแปลง โดยแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นลายลักษณ์อักษร หรือส่งอีเมลไปตามรายละเอียดการติดต่อด้านล่าง
การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
  • บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการเก็บข้อมูลนั้น หรือตามที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาต
  • บริษัทจะยุติการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือลบวิธีการที่ข้อมูลสามารถเชื่อมโยงกับท่านได้ทันทีที่มีเหตุผลที่จะถือว่าการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ในการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอีกต่อไป และไม่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ทางกฎหมายหรือทางธุรกิจอีกต่อไป
การถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลออกนอกประเทศไทย
  • โดยปกติ บริษัทไม่ถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกนอกประเทศไทย อย่างไรก็ตาม หากบริษัทต้องการทำเช่นนั้น บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อนถ่ายโอนข้อมูล และบริษัทจะต้องมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการปกป้องคุ้มครองที่ได้มาตรฐานอย่างน้อยเทียบเท่ากับที่ได้รับจาก พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหากท่านมีคำถามหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายและกระบวนการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท หรือหากท่านต้องการส่งคำขอดำเนินการใดๆ กรุณาส่งมาที่
    หมายเลขโทรศัพท์ : +603 86017000
    ที่อยู่อีเมล : DPO_TH@bausch.com
ผลของคำประกาศและการเปลี่ยนแปลงคำประกาศ
  • คำประกาศนี้ใช้ร่วมกับคำประกาศอื่นๆ ข้อสัญญา และคำยินยอม ที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบริษัท
  • บริษัทอาจแก้ไขคำประกาศนี้เป็นครั้งคราวโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ท่านอาจสังเกตว่ามีการปรับปรุงแก้ไขใหม่โดยดูจากวันที่ในคำประกาศ การที่ท่านใช้บริการของบริษัทอย่างต่อเนื่องถือว่าท่านได้รับทราบและยอมรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

Close
เข้าสู่ระบบ